ธนาคารแห่งประเทศไทย แนะนำ !!
ให้ผู้ถือบัตรเดบิตและบัตร ATM แบบเดิมรีบเปลี่ยนด่วน !!!
เพื่อป้องกันการโจรกรรม และทำบัตรปลอม
ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงิน ร่วมกันผลักดันการปรับเปลี่ยนบัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มจากรูปแบบบัตรแถบแม่เหล็ก (magnetic card) ให้เป็นบัตรชิปการ์ด (chip card) ที่เป็นมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ป้องกันการปลอมแปลงบัตร (counterfeit card fraud) และการโจรกรรมข้อมูล (skimming) นำไปทำบัตรปลอม และใช้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม
โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนบัตรได้ครบถ้วนภายในสิ้นปี 2562 ซึ่งสถาบันการเงินต่าง ๆ
ได้ประชาสัมพันธ์และเปลี่ยนบัตรให้ประชาชนมาโดยตลอด ปัจจุบันพบว่ามีผู้เปลี่ยนบัตรเป็นชิปการ์ดไปแล้วประมาณ 47 ล้านใบ และยังคงมีบัตรแถบแม่เหล็กคงเหลือที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอีกประมาณ 20 ล้านใบทั่วประเทศ
ติดต่อขอเปลี่ยนบัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็มแถบแม่เหล็กจากเดิม เป็นบัตรชิปการ์ด
ได้ที่ธนาคารผู้ให้บริการทุกแห่ง เอกสารที่ใช้ : บัตรประชาชน สมุดบัญชีเงินฝาก
(ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนบัตร)
มีผลบังคับใช้ 15 มกราคม 2563 บัตรแถบแม่เหล็กจะไม่สามารถใช้งานได้ที่เครื่องเอทีเอ็ม
หรือเครื่องรูดบัตรที่ร้านค้า แต่หากไม่เปลี่ยนบัตรหรือไม่สามารถเปลี่ยนบัตรตามกำหนด
สามารถเบิกถอนเงินสดหรือโอนเงินได้ที่สาขาธนาคารของผู้ถือบัตรโดยใช้บริการผ่านmobile banking หรือ internet banking แทนการใช้บัตร หรือใช้ฟังก์ชั่นกดเงินแบบไม่ใช้บัตรที่ตู้เอทีเอ็ม
.
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ธนาคารเจ้าของบัตร หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน T.1213
.