สิทธิสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ มีเงื่อนไขดังนี้
ต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 (กรณีลูกจ้าง) หรือ 39 (กรณีส่งเอง)
ส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 5เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนเดือนคลอดบุตร
ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 40(อาชีพอิสระไม่สามารถใช้สิทธิได้)
สถานพยาบาล : จะเป็นโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนก็ได้ โดยสำรองจ่ายไปก่อน
แล้วนำเอกสารมาเบิกจ่ายคืนภายหลัง สิทธิที่ได้รับแบ่งออกเป็น
1. ค่าคลอดบุตร
สำหรับลูกจ้างที่ตั้งครรภ์ในปี 2564 สามารถเบิกค่าคลอดบุตรในอัตราเหมาจ่าย
15,000 บาท ต่อครั้ง ตามรอบปีปฏิทิน (จากเดิม 13,000 บาท)
เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
2. สิทธิเงินสงเคราะห์การหยุดงาน 3 เดือนได้รับเพิ่มอีก 50% ของเงินเดือน
(ฐานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท) เป็นเวลา 90 วัน ไม่เกิน 2 ครั้ง ส่วนนี้ได้เฉพาะ
ผู้ประกันตนหญิง( คุณแม่ตั้งครรภ์เท่านั้น) ผู้ประกันตนชายไม่ได้รับตรงส่วนนี้
ตัวอย่างการคำนวณ
(คุณแม่ตั้งครรภ์เงินเดือน 15,000 บาท)
ได้รับเงิน 50% ของเงินเดือน 15,000 บาท
7,500 x 3 = 22,500 บาท
3. ค่าฝากครรภ์ 1,500 บาท (จากเดิมจ่าย 1,000 บาท แบ่งจ่าย 3 ครั้ง)
โดยแบ่งจ่ายตามอายุครรภ์ดังนี้
ฝากครรภ์ครั้งที่ 1 อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ (3เดือน) จ่ายสูงสุด 500 บาท
ฝากครรภ์ครั้งที่ 2 อายุครรภ์ระหว่าง 12-20 สัปดาห์ (3-5เดือน) จ่ายสูงสุด 300 บาท
ฝากครรภ์ครั้งที่ 3 อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายสูงสุด 300 บาท
ฝากครรภ์ครั้งที่ 4 อายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 32 สัปดาห์ จ่ายสูงสุด 200 บาท
ฝากครรภ์ครั้งที่ 5 อายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 40 สัปดาห์ จ่ายสูงสุด 200 บาท
4.เงินสงเคราะห์บุตร 800 บาทต่อเดือน เริ่มปี 2564(เดิม 600 บาท ต่อเดือน)
ผู้ที่ได้รับสิทธิต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และ มาตรา 39 จำนวนบุตรไม่เกิน 3 คน
อายุบุตรที่ได้รับเงินส่วนนี้อยู่ระหว่างแรกเกิดถึง 6 ปี บริบูรณ์
(เป็นบุตรโดยชอบตามกฎหมายไม่ใช่บุตรบุญธรรม) และส่งประกันสังคมตามกำหนด
Trip: เงินอุดหนุนบุตร และ เงินสงเคราะห์บุตรต่างกัน
1.เงินอุดหนุนบุตร สำหรับผู้มีรายได้น้อย (เด็กแรกเกิด - 6 ปี)
2.เงินสงเคราะห์บุตร สำหรับผู้ประกันตนสิทธิมาตรา 33 และ มาตรา 39 (เด็กแรกเกิด - 6 ปี)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานประกันสังคม

<https://www.jidamad.com>
</https://www.jidamad.com>